
ตู้พรรณไม้น้ำ
ตู้พรรณไม้น้ำเป็นธรรมชาติที่ถูกจำลองให้มีขนาดเล็กลง จากตู้ปลาที่ตกแต่งด้วยกรวด ก้อนหิน ขอนไม้ และอุปกรณ์ที่จำเป็นกับการดำรงชีวิตของปลาเท่านั้น ซึ่งมองดูแล้วไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
เมื่อนำพรรณไม้น้ำหลายชนิดมาประดับตู้ปลา จึงเป็นการยกระดับสภาพแวดล้อมภายในตู้ปลา ก่อให้เกิดทิวทัศน์ที่สวยงามใต้น้ำ อีกทั้งพรรณไม้น้ำยังสังเคราะห์แสงให้ออกซิเจนและยังช่วยกำจัดของเสียที่เกิดจากการขับถ่ายของปลา และเศษอาหารที่เหลือในตู้ โดยพรรณไม้น้ำจะนำของเสียเหล่านั้นไปเป็นปุ๋ย
เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต
ในธรรมชาติเราสามารถพบเจอพรรณไม้น้ำในแหล่งน้ำทั่วไป ทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น บึง หนองน้ำ ลำธาร หรือในแหล่งน้ำที่ถูกสร้างขึ้น เช่น อ่างเก็บน้ำ บ่อเลี้ยงปลา ท้องนา เป็นต้น โดยพรรณ
ไม้น้ำมีขอบเขตการแพร่กระจายกว้างกว่าพืชบนบก เนื่องจากในแหล่งน้ำมีปัจจัยและองค์ประกอบต่างๆ
เช่นอุณภูมิน้ำ ปริมาณของแสง ก๊าซ และสารอาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อยู่ในปริมาณที่ค่อนข้างคงที่
และไม่แตกต่างกันมากในพื้นที่ต่างกัน
ในปัจจุบันมีการค้นพบพรรณไม้น้ำทั้งกลุ่มพรรณไม้น้ำประเภทใต้น้ำ และกลุ่มพรรณไม้น้ำประเภทครึ่งบกครึ่งน้ำ ประมาณ 200,000 ชนิด และพบมากในประเทศเขตร้อนโดยเฉพาะประเทศไทย เนื่องจากมีฝนชุก และมีปริมาณแสงและอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบโต ประเทศไทยจึงเป็นประเทศ
ที่เหมาะในการนำพรรณไม้น้ำมาเลี้ยง หรือนำมาประดับตู้ปลา
การเลี้ยงดูหรือการเลียนแบบธรรมชาติเพื่อให้ไม้น้ำงดงาม ผู้เลี้ยงจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐาน
และความเป็นไปในตู้ไม้น้ำที่จะเกิดขึ้น ทั้งในระหว่างกลางวัน (เปิดไฟ) และกลางคืน (ปิดไฟ)
ซึ่งเป็นการจำลองธรรมชาติ เพื่อให้พรรณไม้น้ำสามารถเจริญเติบโตและอยู่รอดได้ โดยความเปลี่ยนแปลงและกิจกรรมที่จะเกิดในตู้ไม้น้ำประกอไปด้วย
- 1. ปริมาณแสง การสังเคราะห์แสง ช่วงที่มีแสงเป็นช่วงเวลาที่พรรณไม้น้ำผลิตอาหารให้กับตัวเอง
เพื่อความอยู่รอด เติบโต สืบพันธุ์ และเอาชนะพรรณไม้น้ำอื่นๆใกล้เคียง ดังนั้นความเข้มแสง และช่วงเวลาให้แสง เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในธรรมชาติพืชจะได้รับแสงประมาณ 12 ชั่วโมงต่อวัน การนำพรรณไม้น้ำมาเลี้ยงจึงต้องจัดให้มีแสงภายในตู้ประมาณ 10 – 12 ชั่วโมงต่อวัน และหากให้แสงมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวันพรรณไม้น้ำจะดึงคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ถึงขีดสุด จะทำให้พรรณไม้น้ำโทรม และเป็นสาเหตุหลักที่จะทำให้เกิดตะใคร้น้ำภายในตู้ได้ - ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ การให้คาร์บอนไดออกไซด์ ควรให้ในปริมาณระหว่าง 10 – 25 ppm หากให้ปริมาณที่สูงกว่านี้ อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำในตู้ได้ หากภายในตู้มีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์สูง ปลาที่อยู่ในตู้จะขึ้นมาฮุบอากาศบนผิวน้ำตลอดเวลา ดังนั้นจำเป็นจะต้องปิดระบบจ่ายคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อปิดไฟในตู้
- ความเพียงพอของปุ๋ย ปุ๋ยหลักที่จำเป็นต่อพรรณไม้น้ำ เพื่อให้คลอโรฟิลล์ทำงานสังเคราะห์แสงได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย ไนโตรเจน โพแทสเซียม แมกนีเซียม และเหล็ก หากพรรณไม้น้ำขาดปุ๋ย ใบของพรรณไม้น้ำจะเปลี่ยนสี
ทั้ง 3 ปัจจัยนี้ เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญสำหรับพรรณไม้น้ำ ที่ผู้เลี้ยงจำเป็นจะต้องหาข้อมูล
ก่อนนำไม้น้ำมาเลี้ยง แรกเริ่มอาจจะยากสำหรับมือใหม่ เพราะองค์ประกอบในการเลี้ยงมีปัจจัยที่ต้องควบคุม แต่หากทำความเข้าใจในธรรมชาติของพรรณไม้น้ำ และเริ่มมีประสบการณ์ในการเลี้ยง ผู้เลี้ยงพรรณไม้น้ำจะพบว่า การเลี้ยงพรรณไม้น้ำเป็นงานอดิเรกยามว่างที่สนุกและเพลิดเพลินอย่างหนึ่ง
บทความล่าสุด

การปฐมพยาบาลเมื่อถูกแมงกะพรุนไฟ

Phuket Aquarium เผย 5 สัตว์ทะเลหายากในน่านน้ำไทย
