ในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เป็นที่อาศัยอยู่มากมายตั้งอยู่ขนาดเล็กจนมองไม่เห็นเช่นพวกแพลงค์ตอน และจุลชีพชนิดต่างๆ จนถึงสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือปลาวาฬ ซึ่งสิ่งมีชีวิตทุกชนิดล้วนปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมทั้งเพื่อการล่าเหยื่อและเพื่อซ่อนพลางตัวเองให้รอดชีวิต ในบรรดาสัตว์ทะเลเหล่านี้มีหอยชนิดหนึ่งที่มีวิวัฒนาการตัวเองขึ้นมาเพื่อเป็นผู้ล่า คือหอยเต้าปูน

หอยเต้าปูน

          หอยเต้าปูนเป็นสัตว์ทะเลที่สามารถสร้างพิษขึ้นมา เพื่อใช้ในการป้องกันตนเองและล่าเหยื่อ ซึ่งความรุนแรงของพิษจะขึ้นอยู่กับชนิดและลักษณะความเป็นอยู่ของหอยตัวนั้น หอยเต้าปูนเป็นชื่อที่คนไทยเรียกแต่ภาษาอังกฤษเรียกหอยตัวนี้ว่า cone shell เพราะรูปร่างเป็นทรงกรวยหัวป้านปลายแหลม หอยเต้าปูนเป็นหอยฝาเดียว มีเปลือกเป็นรูปกรวย  (Cone)   หนาและหนัก    ขนาดเปลือกมีตั้งแต่ 2-3 เซนติเมตรไปจนถึง 20 เซนติเมตร   ลวดลายบนเปลือกแตกต่างกันไปตามชนิดหอย   ทางด้านหน้าของลำตัว มีท่อน้ำยื่นยาวออกมาเรียกว่า   ไซฟอน   อยู่ที่ส่วนบนสุดทางด้านหน้า  สำหรับทางน้ำออก   ช่วยขับให้ตัวหอยเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้แบบเจ็ตอนุกรมวิธาน หอยเต้าปูน

Phylum Mollusca

Class Gastropoda

Order Neogastropoda

Family Conidae

Genus Conus

หอยเต้าปูนแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง พบได้ทั่วไปในเขตร้อนและเขตใกล้เคียง หอยเต้าปูนทั่วโลกมีประมาณ 400-500 ชนิด พบมากในเขตอินโดแปซิฟิก  ในน่านน้ำไทย  พบประมาณ 300 ชนิด หอยเต้าปูนชอบอาศัยอยู่ตามซอกโพรงหินในแนวปะการัง  หรือขุดรูอยู่ตามชายฝั่งทะเลหรือตามพื้นทะเลใกล้แนวปะการังที่ชายฝั่งความลึกประมาณ  1-2 ฟุต  จนถึงความลึก 10 ฟุต  บางชนิดอาจอยู่ได้ที่ก้นทะเลความลึกถึง 100 ฟุต

หอยเต้าปูนเป็นสัตว์กินเนื้อมันจะออกล่าเหยื่อในตอนกลางคืน   โดยตามกลิ่นไปจนเจอเหยื่อซึ่งปกติจะนอนหลับอยู่ตามพื้นทราย มันจะเริ่มสำรวจโดยการยื่นงวงออกไปสัมผัสก่อนที่จะยิงเข็มพิษใส่ หอยเต้าปูนแบ่งได้ตามลักษณะของการกินอาหารเป็น 3 พวกได้แก่

  1. พวกที่กินปลาเป็นอาหาร (Piscivorous) พวกนี้มีพิษรุนแรงที่สุด อาจทำให้คนตายได้
    ตัวอย่างเช่น Conus catus  C. geographus

[bs_row class=”row”][bs_col class=”col-xs-6″]

1
หอยเต้าปูนชนิด Conus catus

[/bs_col][bs_col class=”col-xs-6″]

2
หอยเต้าปูนชนิด C. geographus

[/bs_col][/bs_row]

  1. พวกที่กินหอยเป็นอาหาร (Molluskivorous) หอยพวกนี้มีพิษรุนแรงรองจากพวกที่กินปลาเป็นอาหาร
    ตัวอย่างเช่น C. textile C. aulicus

[bs_row class=”row”][bs_col class=”col-xs-6″]

3
หอยเต้าปูนชนิด C. textile

[/bs_col][bs_col class=”col-xs-6″]

4
หอยเต้าปูนชนิด C. aulicus

[/bs_col][/bs_row]

  1. พวกที่กิน หนอน ไส้เดือนทะเล แม่เพรียง ดาวทะเล และปลิงทะเลเป็นอาหาร (Vermivorous)
    ตัวอย่างเช่น C. imperialis C. sponsalis

[bs_row class=”row”][bs_col class=”col-xs-6″]

5
หอยเต้าปูนชนิด C. imperialis

[/bs_col][bs_col class=”col-xs-6″]

6
หอยเต้าปูนชนิด C. sponsalis

[/bs_col][/bs_row]

หอยเต้าปูนมีพิษได้อย่างไร
ภายในตัวหอยเต้าปูนจะมีอวัยวะสร้างพิษ (Venom Apparatus) ประกอบด้วยถุงน้ำพิษ (Venom Bulb) ท่อน้ำพิษ (Venom Duct) แผงฟัน (Radula Teeth) นอกจากนี้ยังมีงวง (Proboscis) และคอหอย (Pharynx) เป็นส่วนเสริมในการทำงาน

 

7

 

พิษของหอยเต้าปูนเป็นสารประกอบพวกโปรตีน สร้างที่ท่อน้ำพิษแล้วส่งผ่านไปยังคอหอยที่เป็นที่อยู่ของแผงฟัน เมื่อถุงน้ำพิษบีบตัวพิษจะไปเคลือบที่เข็มพิษในแผงฟัน จากนั้นเข็มพิษจะเคลื่อนตัวลงมาสู่งวงพร้อมที่จะถูกยิงออกไปเหมือนปืนฉมวกสู่เหยื่อในระยะห่างพอสมควร เมื่อยิงออกไปแล้วเข็มพิษอันใหม่จะเคลื่อนเข้ามาแทนที่ ดังนั้นหอยเต้าปูนมักจะซ่อนตัวใต้พื้นทรายแล้วโผล่แต่งวงออกมาดักยิงเหยื่อ

 


อาการของพิษหอยเต้าปูน
อาการขึ้นอยู่กับบุคคลและชนิดของหอยเต้าปูน อาการที่เห็นได้ชัดได้แก่ เจ็บปวดมาก บวมมาก ตรงที่ถูกพิษจะเป็นสีน้ำเงินคล้ำ เป็นอัมพาตหมดความรู้สึก อาการชาจะค่อยๆ แพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะที่ริมฝีปากและแขนขา มีอาการคลื่นไส้เวียนศีรษะ น้ำตาและน้ำลายไหล เจ็บหน้าอก เสียงแห้ง มองภาพไม่ชัด กล้ามเนื้อต่างๆ ทำงานผิดปกติ หายใจติดขัด และเสียชีวิตใน 5 ชั่วโมง ส่วนอาการที่ไม่รุนแรงอาจจะมีมีผื่นบวมแดง เจ็บปวด มีอาการคล้ายถูกผึ้งต่อย
กาป้องกันและรักษาเมื่อถูกหอยเต้าปูนทำร้าย
สามารถทำได้เพียงการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรักษาตามอาการเท่านั้น เพราะพิษของหอยเต้าปูนยังไม่มียารักษาเหมือนกับเซรุมแก้พิษงู

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นทำได้โดยการใช้ผ้าก๊อสปิดบนบาดแผลแล้วใช้ผ้าพันแผลรัดให้แน่น แต่ต้องคลายออกบางครั้งเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อตายจากการขาดเลือด การจุ่มแผลลงในน้ำอุ่น 43-45 องศาเซลเซียส อาจช่วยลดความเจ็บปวดได้บ้าง ห้ามกรีดแผลเพื่อดูดพิษออกแล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

 

[bs_well size=”lg”]

[/bs_well]

บทความล่าสุด

22 กุมภาพันธ์ 2024

ปลาเสือเยอรมัน

14 กุมภาพันธ์ 2024

กุ้งมังกรหัวเขียว

6 กุมภาพันธ์ 2024

กระเบนหางขาว