รู้จัก “เม่นดำหนามยาว” Diadema setosum

ลักษณะทั่วไป

 เม่นทะเล มีรูปร่างกลมมนหรืออาจจะค่อนข้างแบนแล้วแต่ชนิด รอบๆ ตัวจะมีสีดำและหนามอยู่รอบตัว เม่นทะเลมีหนามแหลมปกคลุมบนลำตัวซึ่งมีอยู่ 2 ชนิดคือหนามใหญ่  กับหนามเล็ก

 หนามใหญ่  หนามใหญ่นี้บางชนิดสั้น บางชนิดยาวและมักจะเปราะส่วนใหญ่แล้วหนามนี้ไม่มีพิษ ซึ่งมีส่วนประกอบของหินปูน กับสารอินทรีย์ เมื่อทิ่มเข้าผิวหนังของผู้เคราะห์ร้ายมักจะหักติดกับเนื้อใต้ผิวหนัง แม้ว่าจะพยายามบ่งออกเท่าไรก็ไม่ออกเพราะว่ามันเปราะนั่นเอง เมื่อปล่อยทิ้งไว้ 2 – 3 วันจะละลายหายไปเอง

  หนามเล็ก  ในบางชนิดจะมีพิษ หนามเล็กนี้สั้นและเล็กกว่าหนามใหญ่อยู่ระหว่างหนามใหญ่ส่วนมากจะพบทางด้านล่างของลำตัว ในชนิดที่มีพิษเช่น Asthenosoma varium Grube  ที่ส่วนปลายหนามจะมีถุงน้ำพิษอยู่ เมื่อทิ่มเข้าสู่ผิวหนังจะทำให้ได้รับความความเจ็บปวด แต่ในบางชนิดก็ไม่มีพิษ

นอกจากหนามทั้งสองชนิดดังกล่าวแล้ว เม่นทะเลยังมีอวัยวะอีกอย่างหนึ่งซึ่งมีลักษณะเป็นก้านเล็กๆ คล้ายเกสรดอกไม้อยู่ระหว่างหนามทั้งสองปกคลุมลำตัวอยู่เรียกว่าเพดดิเซลลาเรีย ก้านเล็ก ๆ นี้มีลักษณะแตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิด ซึ่งจะมีเขี้ยวพิษ 2 – 4 อัน แต่โดยทั่วไปมักจะมี 3 อันและมีต่อมน้ำพิษอยู่ ซึ่งพิษนี้ของบางชนิดร้ายแรงมากอาจจะทำให้ผู้เคราะห์ร้ายถึงแก่ชีวิตได้

ด้านล่างของลำตัวจะมีปาก และ Tube feet ทำหน้าที่คล้ายขาสำหรับเดินปกติจะพบพวกเม่นทะเลอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ตามหาดที่มีปะการัง หรือตามพื้นทรายหรือหาดหิน ชนิดที่พบมากตามชายฝั่งเกาะภูเก็ตและในประเทศไทย เป็นชนิดหนามยาวลำตัวมีสีดำทั้งตัว พวกนี้มักจะหลบซ่อนตัวตามซอกปะการัง ซอกหิน หรือตามโพรง เมื่อมีสิ่งรบกวนเข้ามาใกล้ๆ มันจะเบนหนามโดยมีมัดกล้ามเนื้อที่โคนหนามจะดึงหนามเบนเข้าหาทิศทางที่สิ่งรบกวนเข้ามาหา

พิษและอาการ

ตามที่กล่าวข้างต้นว่าสัตว์พวกนี้มีหนามอยู่ 2 ชนิด คือ หนามใหญ่ และหนามเล็ก  หนามใหญ่นั้นไม่มีรายงานว่าพบน้ำพิษแต่สร้างความเจ็บปวดได้เพราะโดยทั่วไปแล้วผู้เคราะห์ร้ายมักจะโดนตำคราวละหลายหนาม ดังนั้นความเจ็บปวดของมันจะรุนแรงแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าถูกหนามใหญ่ตำมากน้อยแค่ไหน หนามใหญ่นี้มักจะหักฝังคาอยู่ในเนื้อของผู้เคราะห์ร้าย อาการหลังจากถูกหนามใหญ่ตำจะมีอาการปวดเหมือนกับถูกเข็มทิ่มแทงบริเวณที่ถูกตำจะเป็นรอยแดง บวมและรู้สึกปวด อาการปวดจะนานเพียงไม่กี่ชั่วโมงจนถึง 2 – 3 วัน

อาการที่เกิดจากหนามเล็กนั้นก็เหมือนกับหนามใหญ่ถ้าหนามเล็กไม่มพิษ แต่ถ้ามีน้ำพิษอยู่อาการที่เกิดขึ้นจะรุนแรงกว่า กล่าวคือนอกจากมีอาการปวด บวมแดงแล้ว ยังทำให้อวัยวะส่วนที่ถูกหนามพิษนั้นชา ไม่มีความรู้สึก ระบบประสาทส่วนนั้นไม่ทำงาน หน้าซีด และการสูบฉีดโลหิตไม่เป็นปกติ

อาการที่เกิดจากพิษของเพดดิเซลลาเรียนั้นค่อนข้างจะรุนแรง ผู้เคราะห์ร้ายจะมีอาการปวด ชา จนไม่มีความรู้สึก ปากคอสั่น หายใจลำบาก และอาจถึงตายได้ อาการหลังจากถูกพิษนั้นค่อยๆ บรรเทาหลังจากเวลาไม่กี่วินาทีและจะหายปวดภายใน 1 ชั่วโมง แต่อาการชาของกล้ามเนื้อซึ่งไม่มีความรู้สึกนั้นยังคงอยู่อีกหลายชั่วโมง ถ้าถูกพิษไม่มากและผู้ได้รับบาดเจ็บมีภูมิต้านทานดี อาการดังกล่าวจะหายไปเอง ยังไม่เคยพบผู้เคราะห์ร้ายจากพิษของเม่นทะเลในขั้นรุนแรงและถึงตาย

การบำบัดรักษา

ถ้าถูกหนามใหญ่หรือหนามเล็กแทง ถึงแม้ว่าจะพยายามเอาเข็มบ่งก็ไม่ออกเพราะว่าหนามพวกนี้เปราะ นักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำที่เกาะทะลุ ที่โดนหอยเม่นตำ สามารถใช้พวกของแข็ง เช่น ท่อนไม้ ขวดน้ำ ก้อนหิน รองเท้า เป็นต้น ทุบบริเวณที่ถูกหนามแทงเท่าที่จะสามารถทนความเจ็บปวดได้ในขณะทุบ เพื่อเป็นการเร่งให้หนามที่หักติดอยู่ในเนื้อนั้นสลายตัวได้เร็วขึ้น เพราะตามที่กล่าวข้างต้นว่าหนามพวกนี้สลายอาการปวดก็จะหายไป จะยังคงมีจุดสีม่วงดำซึ่งเป็นสีของหนามเหลืออยู่เท่านั้น
ถ้าถูกเขี้ยวพิษของเพดดิเซลลาเรียนั้นยังไม่มียาเฉพาะรักษา เมื่อถูกเขี้ยวพิษของพวกนี้ซึ่งสังเกตได้จากอาการปวดที่แผ่ซ่าน เช่น ถูกเขี้ยวพิษเพียงจุดนิดเดียวที่เท้า แต่อาการปวดจะแผ่ขยายไปทั่วบริเวณขาภายในเวลาไม่กี่นาทีแล้วละก็ควรรีบนำผู้เคราะห์ร้ายส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

การป้องกัน

ก่อนที่จะลงไปเล่นน้ำทะเล ควรจะสำรวจดูก่อนว่าบริเวณนั้นมีพวกนี้อาศัยอยู่หรือไม่ ถ้ามีก็ควรหลีกเลี่ยงไปที่อื่น หากมีความจำเป็นที่จะต้องเดินหรือย่ำไปตามชายหาดบริเวณที่มีพวกเม่นทะเลอาศัยอยู่นั้น การป้องกันที่ดีที่สุด ก็คือการสวมรองเท้า แต่ก็มิได้หมายความว่าจะป้องกันได้เสมอไป เพราะหนามเม่นทะเลนั้นแหลมสามารถแทงทะลุรองเท้ายางหรือรองเท้าบางๆ ได้ ฉะนั้นควรจะระมัดระวังพยายามอย่าไปเหยียบบนตัวมัน ในบางครั้งเมื่อถูกหนามตำอาจจะทำให้เราเสียการทรงตัวและล้มลงไปทับบนกลุ่มของมันยิ่งทำให้ถูกหนามแทงมากเพิ่มขึ้น ทำให้ได้รับความเจ็บปวดมาก และได้รับพิษมากจะถึงแก่ชีวิตได้ ไม่ควรที่จะใช้ไม้ หรือปากคีบจับและถือด้วยความระมัดระวัง และในขณะลงดำน้ำพยายามลอยตัวขนานกับน้ำไว้เพื่อไม่ให้ขาไปเตะโดนใหอยเม่นได้

จัดทำโดย นักวิชาการประมงปฎิบัติการ

ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน

เอกสารอ้างอิง

  • คลังความรู้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  • สีฟ้าทัวร์ เกาะทะลุ ดำน้ำเกาะทะลุประจวบ