ปลาน้ำจืด (Freshwater fish) หมายถึง ปลาที่อาศัยและเจริญเติบโตในแหล่งน้ำที่มีความเค็มต่ำ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง ทะเลสาบ หรืออ่างเก็บน้ำ โดยทั่วไปความเค็มของแหล่งน้ำจืดจะต่ำกว่า 0.5 ส่วนในพันส่วน (ppt) โดยปลาน้ำจืดที่นิยมจัดตู้ ได้แก่ ปลาทอง ปลากัด ปลาหางนกยูง ปลามอลลี่ ปลาเทวดา ปลาหมอสี ปลากระดี่ ปลาตะเพียน ปลาคาร์ป (ปลาแฟนซีคาร์พ) และปลาม้าลาย โดยปลากลุ่มนี้มีทั้งที่ดูแลง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม และเหมาะสำหรับมือใหม่ ซึ่งบางชนิดไม่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนหรือระบบกรองซับซ้อนมากนัก จึงเหมาะกับการเลี้ยงในตู้ขนาดเล็ก

การจัดตู้ปลาน้ำจืด (Freshwater Aquarium) เป็นการจัดสภาพที่อยู่อาศัยของปลาเลียนแบบธรรมชาติภายในตู้ปลา ซึ่งมีพื้นที่จำกัด และเพื่อให้เกิดความสวยงาม ในการจัดตู้ปลานั้น มีหลักการสำคัญคือ การเลือกขนาดตู้ให้เหมาะสมกับจำนวนปลา เตรียมอุปกรณ์กรองน้ำและไฟให้พร้อม เลือกวัสดุรองพื้นและของตกแต่งที่ปลอดภัย และจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้สวยงาม

ตารางแสดง ขั้นตอนการจัดตู้ปลาน้ำจืด

ขั้นตอนการจัดตู้ปลาน้ำจืด รายละเอียด
1.เลือกขนาดตู้และอุปกรณ์

– ขนาดตู้

 

 

– อุปกรณ์จำเป็น:

 

เลือกตามชนิดปลา เช่น

เล็ก (<24 นิ้ว) → ปลาขนาดเล็ก (กุ้ง, หางนกยูง, เตตร้า)

กลาง–ใหญ่ (>36 นิ้ว) → ปลาขนาดกลาง–ใหญ่ (ปลาทอง, ปลาหมอสี)

1.กรองน้ำ (Filter)

2.ฮีตเตอร์ (ถ้าปลาต้องการอุณหภูมิคงที่ 24–28°C)

3.หลอดไฟ (สำหรับพืชน้ำและปลา)

4.ท่อเติมอากาศ/หัวทราย (Air Pump)

2.เลือกพื้นตู้ (Substrate) 1.กรวด/ทรายละเอียด → สำหรับปลาทั่วไป

2.ดินปลูกพืชน้ำ (Soil) → สำหรับตู้ไม้น้ำ ความหนา ~3–5 ซม. เพื่อให้พืชน้ำหยั่งราก

3.วางโครงสร้างตกแต่ง (Hardscape)

 

1.ไม้แช่น้ำ, หิน, โขดหิน → จัดเป็นจุดหลัก (focal point) จัดวางให้มีที่ว่างสำหรับปลาแหวกว่าย หลีกเลี่ยงของมีคม ที่อาจทำให้ปลาบาดเจ็บ
4.เติมน้ำและเตรียมน้ำ

 

 

1.ใช้น้ำประปา → เติม น้ำยาลบคลอรีน (Dechlorinator)

ปรับ pH และความกระด้างตามชนิดปลา (เช่น ปลาทอง pH 7–8, ปลาไม้น้ำ pH 6.5–7.5)

2.เติมน้ำให้เต็มตู้ ค่อย ๆ เทเพื่อลดการกระทบตะกอน

5.ใส่พืชน้ำ (ถ้ามี)

 

ปลูกพืชน้ำ เช่น อนูเบียส, คาบอมบา, แว่นแก้ว, มอส → ช่วยดูดซับของเสีย จัดตำแหน่ง: พืชสูงด้านหลัง → พืชเตี้ยด้านหน้า
6.ติดตั้งระบบกรอง–อากาศ–ไฟ

 

เปิดกรองน้ำและปั๊มลมให้ทำงานต่อเนื่อง ตั้งเวลาไฟ 8–10 ชั่วโมง/วัน

(ไม่ควรเปิดตลอดเวลา → จะเกิดตะไคร่)

7.การพักระบบ (Cycling)

เพื่อสร้างจุลินทรีย์ไนตริไฟอิ้ง (Nitrifying bacteria)

1.ปล่อยระบบทำงาน 7–14 วัน ก่อนใส่ปลา → ลดการสะสมของแอมโมเนีย

2.อาจใส่จุลินทรีย์เสริม (bacteria starter) ช่วยให้ระบบเสถียรเร็วขึ้น

8.การเลือกและใส่ปลา

 

 

1.เลือกปลาที่เข้ากันได้ เช่น

-ตู้ไม้น้ำ → หางนกยูง, นีออน, กุ้งแคระ

-ตู้ปลาทอง → ปลาทองล้วน

2.ค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิถุงปลาให้ใกล้กับตู้ก่อนปล่อย

9.การดูแลรักษา

 

 

1.เปลี่ยนน้ำ ~20–30% ทุก 1–2 สัปดาห์

2.ดูดเศษอาหารและของเสียจากพื้นตู้

3.ตรวจสอบค่า pH, NH₃, NO₂⁻, NO₃⁻ เป็นระยะ

4.ให้อาหารพอดี → กินหมดใน 2–3 นาที

การจัดตู้จะเริ่มจากการทำความสะอาดตู้และอุปกรณ์ วางกรวด/ทรายรองพื้น แล้วค่อยวางของตกแต่ง เช่น หิน ขอนไม้ หรือไม้น้ำ ก่อนจะเติมน้ำและติดตั้งระบบกรองและไฟ

ข้อควรรู้เพิ่มเติม:

  1. ขนาดตู้ที่เหมาะสม: ตู้ที่ใหญ่กว่าจะช่วยรักษาอุณหภูมิและคุณภาพน้ำได้ดีขึ้น ลดความเครียดของปลา
  2. ความปลอดภัยของวัสดุ: เลือกใช้วัสดุของตกแต่งที่ไม่มีสารอันตรายและปลอดภัยกับปลา
  3. พื้นที่ว่ายน้ำ: จัดตู้ให้มีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอ ให้ปลาได้ว่ายน้ำอย่างอิสระ