ชื่อไทย: ปลาแรด

ชื่อวิทยาศาสตร์: Osphronemus goramy

ชื่ออังกฤษ: Giant gourami

%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%94

ชีววิทยา

เป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ลำตัวป้อมและแบนข้าง เกล็ดสากมือเป็นรูปหยัก มีก้านครีบท้องคู่แรกเป็นเส้นเรียวยาวคล้ายหนวด ใช้สำหรับสัมผัส ปลายหางมนกลม ปากแหลม ริมฝีปากหนา ภายในปากมีฟันซี่เล็ก ๆ แหลมคมเรียงอยู่ภายใน ส่วนหัวเล็กและป้าน เมื่อโตขึ้นมาโดยเฉพาะในปลาตัวผู้จะมีโหนกนูนขึ้นมาเรื่อย ๆ จนดูคล้ายนอแรด อันเป็นที่มาของชื่อสามัญในภาษาไทย โคนหางมีจุดสีดำคล้ำอยู่ทั้ง 2 ข้าง   เมื่อโตขึ้นจุดดังกล่าวจะหายไป รวมทั้งอวัยวะส่วนอื่น ๆ เช่น ริมฝีปาก หรือขากรรไกรที่ใหญ่กว่าตัวเมีย    ขณะที่ปลาตัวเมียจะมีจุดสีดำที่บริเวณโคนครีบอกทั้ง 2 ข้าง ส่วนตัวผู้ไม่มี

วงจรชีวิต

ลูกปลาผีเสื้อแทบทุกชนิดมีรูปร่างหน้าตาแทบจะเหมือนกับตัวเต็มวัย โดยมักจะมีจุดบริเวณครีบหลัง และเมื่อลูกปลาโตขึ้นจุดที่ว่านี้ก็จะหายไปเช่นเดียวกับปลาในแนวปะการังอื่น ๆ อีกหลายชนิด

การสืบพันธุ์

ปลาแรดสามารถวางไข่ได้ตลอดปี แต่จะมีไข่สูงใน ช่วง 7 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-สิงหาคม    ปลาแรดจะสร้างรังวางไข่ รังจะมีลักษณะคล้ายรังนก และจะมีฝาปิดรัง ขนาดรังโดยทั่ว ๆ ไป มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 1 ฟุต ใช้เวลาสร้าง ประมาณ 1 สัปดาห์ จะมีไข่ระหว่าง 2,000-4,000 ฟอง พ่อแม่ปลา จะคอยระวังรักษาลูกอ่อนอยู่ใกล้ ๆ รังและจะพุ่งเข้าใส่ศัตรูที่มารบกวนอย่างเต็มที่ หรือ อาจใช้คอกที่สร้างขึ้นบริเวณตลิ่งที่เป็นคุ้งของลำแม่น้ำที่ไม่ไหลเชี่ยวมาก ใช้เพาะปลาแรด เช่นเดียวกับการเพาะในบ่อ

อาหาร

เป็นปลาที่กินได้ทั้งพืชและสัตว์น้ำ แต่นิยมกินพืชมากกว่า มีการกระจายพันธุ์ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในส่วนที่เป็นแผ่นดินใหญ่ และที่เป็นหมู่เกาะ ในประเทศไทยพบได้ในพื้นที่ภาคกลางและบางส่วนของภาคใต้ มีขนาดโตเต็มที่ได้ถึง 90 เซนติเมตร จึงนับว่าเป็นปลาชนิดที่ใหญ่ที่สุดในวงศ์ Osphronemidae  แต่ว่าขนาดโดยเฉลี่ยทั่วไปจะมีขนาดประมาณ 30-40 เซนติเมตร

แหล่งที่อยู่อาศัย

เป็นปลาน้ำจืดเศรษฐกิจที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งของไทย โดยนิยมเพาะเลี้ยงกันในหลายพื้นที่ เช่น นิยมเลี้ยงกันที่แม่น้ำสะแกกรัง ในจังหวัดอุทัยธานี ที่มีเลี้ยงกันในกระชังในแม่น้ำจนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีนอกจากนี้แล้ว ยังนิยมเลี้ยงกันเป็นปลาสวยงามอีกด้วย โดยในปลาธรรมดาจะเรียกกันว่า “แรดดำ” และในปลาที่มีผิวเผือกจะเรียกว่า “แรดเผือก” หรือ “แรดเผือกตาแดง” นอกจากนี้แล้วยังมีปลาที่สีแตกต่างออกไปด้วย จากการเพาะขยายพันธุ์โดยมนุษย์